ผ่อนบ้านต่อไม่ไหว ทำอะไรได้บ้าง ?

ผ่อนบ้านต่อไม่ไหว ทำอะไรได้บ้าง คำถามยอดฮิตของคนซื้อบ้าน เราลองมาหาคำตอบว่าทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อจะได้มีบ้านอยู่ต่อไปยิงช่วงนี้ ไหนจะน้ำมันแพง   ข้าวของต่างๆขึ้นราคา    ซึ่งเกิดจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาลากยาวมาตั้งแต่เกิดโรคระบาด(โควิด-19) แม้ว่าตอนนี้พอจะมีทิศทางที่ดีขึ้นบ้างแต่ก็ยังวางใจไม่ได้   เมื่อมาเจอกับสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนอีก    หลายๆคนคงได้รับผลกระทบมากบ้างน้อยบ้าง   โดยเฉพาะในเรื่องของรายได้  ยิ่งคนที่มีภาระหนี้สินอยู่  เช่น  การผ่อนบ้าน  อาจเข้าใกล้โซนอันตราย  จ่ายเงิน ผ่อนบ้านต่อไม่ไหว   แล้วจะทำอย่างไรได้บ้างล่ะ!!

refinance

มาดู  5 วิธีที่เป็นทางออกสำหรับคนผ่อนบ้าน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไปต่อไม่ไหว  ดังนี้

1.เจรจากับสถาบันการเงิน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด  เมื่อเริ่มมีปัญหาเรื่องรายได้ที่สวนทางกับรายจ่าย  จนเราคิดว่า เริ่มผ่อนบ้านต่อไม่ไหว จนอาจจะส่งผลกระทบต่อการผ่อนชำระหนี้ อย่าปล่อยทิ้งไว้จนสายเกินแก้ ควรรีบเข้าไปขอคำปรึกษาจากสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้  ซึ่งจะมีแนวทางช่วยเหลือในหลายๆช่องทาง (** ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง)  อาทิ 

  • การขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้  เพื่อขอผ่อนปรนการชำระหนี้กับสถาบันการเงินตามความสามารถ 
  • การขอขยายระยะเวลาชำระหนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง ทำให้ยอดผ่อนชำระต่อเดือนปรับลดลงได้  
  • การขอพักชำระเงินต้น  เพื่อช่วยลดภาระการผ่อนชั่วคราว โดยจ่ายเพียงดอกเบี้ยตามปกติ 

 2.ใช้การรีไฟแนนซ์ (refinance)  ไปยังสถาบันการเงินใหม่ที่ให้เงื่อนไขดีกว่า โดยเฉพาะการให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า  จะช่วยทำให้เงินงวดที่ต้องผ่อนชำระลดลง  แต่ต้องพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะเกิดขึ้นจากการรีไฟแนนซ์ด้วยว่าจะคุ้มกันหรือไม่  ซึ่งอันนี้เราต้องเช็คจากธนาคารด้วยนะว่า ระยะเวลากู้กี่ปีถึงจะทำการ refinance ได้ เช่นของแอดมิน ต้องผ่อนจ่ายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี  ไม่นั้นก็ต้องไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้  


3.ใช้การรีเทนชั่น (Retention) เพื่อต่อรองขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินเดิม  ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่ได้อัตราดอกเบี้ยดีเท่ากับการรีไฟแนนซ์ แต่ก็ไม่ต้องเสียเวลาหรือไม่มีค่าใช้จ่ายดำเนินการ เพราะเป็นสถาบันการเงินเดิมอยู่แล้ว  อันนี้บางธนาคารเึค้าจะมีโปรลับสำหรับลูกค้าอยู่ แนะนำให้ลองคุยกับธนาคารก่อน เพราะอาจจะลดดอกเบี้ยได้ลงมาหน่อยนึง 


ทั้ง 3 วิธีการดังกล่าวเป็นการช่วยบรรเทาภาระหนี้สิน  ทำให้ยังสามารถผ่อนชำระค่าบ้านได้ต่อไป  แม้ว่ารายได้จะลดลงก็ตาม   

แต่ถ้าคิดดีแล้วว่า ยังไง ผ่อนบ้านต่อไม่ไหวแน่ๆแล้ว   คงต้องบอกลาบ้านที่ผ่อนอยู่  ก็พอมีทางออกที่จะแนะนำ ดังนี้

4.ขอโอนทรัพย์ชำระหนี้กับสถาบันการเงินเจ้าหนี้  โดยเป็นการตกลงยินยอมโอนทรัพย์ชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้    แต่กรณีนี้ลูกหนี้อาจต้องจ่ายเพิ่มหากมูลค่าทรัพย์นั้นน้อยกว่ามูลหนี้ที่คงค้างอยู่
กรณี เข้าใจว่าเรามีสินทรัพย์ แต่ถ้ามันจำเป็นจริงๆก็ต้องทำ  เช่น รถ ที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นๆ ที่ปลอดหนี้แล้ว นำไปหักลบ กลบหนี้กัน


5.ขายบ้านที่ผ่อนอยู่  เพื่อนำเงินไปชำระหนี้  โดยอาจจะประกาศขายบ้านด้วยตนเองหรือผ่านบริษัทตัวแทนนายหน้า   หากเป็นบ้านที่ทำเลดีๆ อาจได้ราคาสูง  ชำระหนี้สินไปแล้ว  ยังมีเงินเหลือ   ถ้าทำเลไม่ค่อยดี มีคนประกาศขายเยอะ อาจไม่ได้ราคาเท่าไหร่   

ไม่เช่นนั้นก็บอกขายบ้านให้กับญาติพี่น้องที่พอมีกำลังซื้อหรือผ่อนต่อได้ แต่ต้องทำการซื้อ-ขายอย่างเป็นทางการ  อย่าใช้เพียงการพูดคุย ไม่มีหลักฐาน  เดี๋ยวปัญหาไม่จบ  จะยิ่งบานปลายไปกันใหญ่

วิธีนี้คือทางออกสุดท้าย ถ้าเราไปต่อไม่ได้แล้วจริงๆ อาจจะต้องขายออกแล้วไปอยู่ที่อยู่อาศัยอื่นๆ เช่าไปก่อนช่วงกำลังตั้งตัวใหม่ หรือใครผ่อนไปเยอะแล้ว ขายบ้านแล้วได้กำไร หักลบกลบหนี้ ยังพอมีเงินเหลือที่จะซื้อคอนโดถูกๆอยู่ ก็อาจจะทำแบบนี้ไปก่อนครอบครัวจะได้มีที่อยู่ อีกทางออกคือเช่าบ้านไปก่อน อย่างที่บอกไปข้างต้น

แต่ละวิธีอาจเหมาะกับแต่ละสถานการณ์  ลองนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมและความจำเป็น ก็น่าจะทำให้พอมีทางออกเรื่องผ่อนบ้านไม่ไหวกันได้….


ฝากติดตาม Facebook : Enjoy Residence ได้ที่นี่ EnjoyResidenceThailand

Leave a Reply

%d