รีวิว เวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์ – พระราม 9 บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ ครัวกว้าง จัดฟังก์ชั่นได้มากขึ้น ตอบโจทย์ชีวิตดีๆได้ในทุกวัน
แบรนด์ VENUE ID (เวนิว ไอดี) เป็นแบรนด์บ้านใหม่ของ SC Asset ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ตัวบ้านจึงมีการออกแบบให้เน้นความสะดวกสบาย มีความร่มรื่น ส่วนตัวมากขึ้น และยังมีความเป็นทันสมัย ดีไซน์โมเดิร์นมากขึ้น
ทำเลที่ตั้งโครงการนั้นถือว่าสะดวกสบายมากๆ ถ้าหากผู้ที่กำลังมองหาบ้านทำงานอยู่ในเมืองย่านพระราม 9 เพราะจากตัวโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ทางด่วนมอเตอร์เวย์ , ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ , ถนนร่มเกล้า ซึ่งถือว่าสะดวกเข้าเมือง เพียง 2 นาทีถึงทางด่วน* ใกล้พระราม 9 และยังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ รวมไปถึง Airport link
นอกจากนี้รอบๆโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างครบครัน เดอะพาซิโอมอลล์ ลาดกระบัง , โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง , บิ๊กซี ร่มเกล้า ซึ่งตลอดระยะทางที่เข้ามาในซอยใกล้ๆโครงการ ยังเห็นว่ามีร้านค้า ร้านอำนวยความสะดวก จะแวะซื้อของกิน ของเล็กๆน้อยๆในตลาด หรือเซเว่นใกล้บ้าน ก็มีครบค่ะ ซึ่งตรงนี้แพรกับพี่แป็ปมองว่าสำคัญมากๆในการใช้ชีวิตที่เราต้องการความสะดวกสบาย ในการซื้อของกินที่หาง่าย ไม่ต้องเข้าห้างใหญ่ในทุกวัน และยังสามารถใช้บริการ Delivery จากร้านใกล้ๆบ้านได้
สำหรับครอบครัวที่กำลังมีลูก หรือกำลังมองหาโรงเรียนใกล้บ้านให้ลูก ใกล้ๆโครงการยังมีโรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า อินเตอร์ , โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า , โรงเรียนนานาชาติเวลลิงตัน , โรงเรียนนานาชาติไบรตัน ที่เราสามารถส่งบุตรหลานไปเรียนในโรงเรียนใกล้ๆบ้านได้ค่ะ
รวมไปถึงยังมีโรงพยาบาลใกล้ๆบ้านอย่าง โรงพยาบาลสิรินธร , โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง , โรงพยาบาลรามคำแหง 2 , สมิติเวช ศรีนครินทร์ ที่จะคอยอำนวยความสะดวกในยามที่ลูกหลายหรือคนที่บ้านเจ็บไข้ได้ป่วย
โครงการ เวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์ – พระราม 9
โครงการ เวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์ – พระราม 9 เป็นโครงการที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากหมู่เกาะในฝันของนอร์เวย์ Lofoten Islands (แต่ละโครงการแบรนด์ VENUE ID ก็จะมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันไป) ซึ่งมีเอกลักษณ์คือ แสงเหนือในหน้าหนาวและภูมิประเทศที่สวยงาม ลักษณะเป็นภูเขาสูงสลับเรียงรายริมทะเลสีฟ้าคราม ซึ่งทั้งหมดนี้เราจะเห็นได้ชัดเจนสำหรับการออกแบบส่วนกลางที่สวยมากๆค่ะ
ตัวโครงการอยู่บนพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 41-3-77.9 ไร่ มีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบ รวมทั้งหมด 157 ยูนิต
บ้านแบบ Jolly พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อนบน 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ
บ้านแบบ Jovial พื้นที่ใช้สอย 212 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อนบน 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ
บ้านแบบ Joyous พื้นที่ใช้สอย 276 ตร.ม. มี 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 2 ห้องพักผ่อนบน 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ครัวไทย 3 ที่จอดรถ
บ้านแบบ Jubilant พื้นที่ใช้สอย 313 ตร.ม. มี 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 2 ห้องพักผ่อนบน 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ครัวไทย 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
บ้านแบบที่พี่แป็ปกับแพรมาดูกันวันนี้ จะเป็นบ้านแบบ Jubilant ซึ่งบ้านแบบนี้ถือว่าเป็นบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเยอะสุดในโครงการ และเป็นบ้านหน้ากว้าง สร้างเต็มพื้นที่ ทำให้เราสามารถใช้สอยพื้นที่ในบ้านได้อย่างเต็มที่ค่ะ
บ้านแบบนี้สามารถรองรับการจอดรถได้ถึง 3 คัน ซึ่งถือว่าค่อนข้างเพียงพอสำหรับบ้านที่อยู่กันถึง 3 เจนได้เลยค่ะ อย่างแพรกับพี่แป็ปเราอยู่กัน 2 คนเป็นหลักและเตรียมวางแผนมีลูกในอนาคต เราก็มองว่าจะมีรถที่รองรับครอบครัวได้ 1 คัน และรถส่วนตัวของเรา 2 คนได้พอดีค่ะ
นอกจากนี้บ้านแบบนี้ยังรองรับการติดตั้ง EV-Charger ได้อีกด้วยนะคะ
บริเวณลานจอดรถ มีประตูทางเข้าอีก 1 บาน รองรับความสะดวกสบายในการไปและกลับมาบ้าน จอดรถสามารถหิ้วของหิ้วสัมภาระเข้าบ้านได้ทันที และบริเวณนี้ยังมีการติด Digital Door Lock ไว้ให้เรียบร้อย โดยสามารถสั่งการผ่าน การปลดล็อค 3 ระบบ คือ ผ่าน Card, Password และกุญแจ
และทางโครงการยังได้ติด Magnetic Sensor ทุกประตูและหน้าต่างของบ้านให้ด้วยค่ะ เป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยของตัวบ้านได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
มุมไฮไลท์ของบ้านหลังนี้ ขอยกให้มุมนี้ค่ะ ที่เหมือนเป็นระเบียงเล็กๆ ใต้ชายคากันแดดกันฝน สามารถใช้งานได้จริง จะทำเป็นมุมจิบชากาแฟยามเช้ายามบ่ายมุมนี้ก็ยังไม่ร้อนด้วย เพราะได้ร่มไม้ชายคาบริเวณบ้านช่วยไว้ ซึ่งตรงนี้หากคนเคยอยู่คอนโดมาก่อนจะรู้ดีว่าระเบียงที่คอนโดไม่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตให้เป็นมุมพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ขนาดนั้นนะคะ ใครที่ชอบใช้พื้นที่ระเบียงนั่งพักผ่อนจิบชากาแฟ มุมนี้ของบ้านตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ
ส่วนสายกินอย่างแพรกับพี่แป็ปมุมนี้ต้องบอกว่าโดนใจเรา 2 คนมากๆ เพราะในวันสบายๆที่อยากฉลองเล็กๆน้อยๆกับครอบครัว สามารถมานั่งกินชาบูหมูกระทะนอกบ้านกันได้ โดยไม่ต้องกลัวพื้นในบ้านเลอะเทอะ ไม่ต้องกลัวกลิ่นควันจะคลุ้งในบ้านหรือติดผ้าม่าน ตรงนี้ตอบโจทย์ในการทำเป็นมุมพิเศษประจำบ้านได้ดีมากๆ
ขอพามาดูพื้นที่ข้างบ้านกันก่อนนะคะ ด้วยความที่เป็นบ้านเดี่ยว เลยจะมีพื้นที่รอบๆบ้าน และทางโครงการได้ทำตัวอย่างไว้ให้เป็นพื้นที่สีเขียวที่ตอบโจทย์ได้ดี สำหรับคนที่ชอบพื้นที่สีเขียวนะคะ สามารถปลูกต้นไม้ตกแต่งบ้านได้ตามความชอบเลย
เข้ามาด้านในบ้าน เราจะเจอกับพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ที่เป็นมุมเชื่อมต่อกับพื้นที่โดยรวมของในบ้านทั้งหมด มุมนี้จะอยู่ใกล้กับห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างถึง 2 ห้อง มุมนี้สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้แบบไม่อีดอัด ในช่วงสบายๆของวัน สามารถเปิดม่านด้านหลังโซฟารับแสงได้อย่างเต็มที่ เพราะทางโครงการให้กระจกบานใหญ่มาเลยทีเดียวค่ะ
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่ค่อนข้างโอ่โถงรองรับครอบครัวใหญ่ได้ดีมากๆค่ะ ซึ่งบ้านจริงบริเวณตรงเคาน์เตอร์ไอส์แลนด์จะเป็นห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องนะคะ ถ้าหากเป็นบ้านครอบครัวใหญ่อยากได้พื้นที่ทานอาหารกว้างๆ สามารถทุบผนังห้องอเนกประสงค์ออกเพื่อทำเป็นพื้นที่รับประทานอาหารขนาดกว้างได้ตามภาพเลยค่ะ สามารถรองรับได้ 8-10 ที่นั่งเลยนะคะ มุมนี้แพรมองว่าเราอยู่กันแบบพ่อแม่ลูก และมีเพื่อนๆมาหาที่บ้าน มีญาติผู้ใหญ่มาหาบ่อยๆ มุมทานอาหารแบบใหญ่ๆ รองรับได้หลายคนจะตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของเราได้ดีมากๆเลยค่ะ
และในระหว่างห้องนั่งเล่นกับพื้นที่รับประทานอาหาร มีพื้นที่ห้องนอนล่างที่เป็นสัดส่วนอีก 1 ห้องนะคะ มุมนี้จะเชื่อมต่อกับมุมระเบียงหน้าบ้านเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียว และยังมีห้องน้ำในตัว สำหรับบ้านที่ไม่ได้มีผู้สูงอายุมาอยู่ด้วย ก็อาจจะทำไว้เป็นห้องนอนแขกหรือเวลามีคุณพ่อคุณแม่มาหาที่บ้านได้นะคะ ซึ่งขนาดห้องสามารถรองรับเตียง 3.5 ฟุตได้แบบมีพื้นที่เหลือๆ
มองจากฝั่งห้องนอนล่างออกมา ขวามือจะเป็นห้องนั่งเล่น ซ้ายมือมุมรับประทานอาหาร และตรงไปยังเป็นครัวไทยที่ต้องบอกว่ากว้างมากๆ
มุมรับประทานอาหารกว้างมากตอบโจทย์การนั่งกินข้าวสังสรรค์ทั้งครอบครัว และยังสามารถต่อเติมทำมุมเคาน์เตอร์ไอส์แลนด์ไว้เตรียมอาหารเล็กๆในบ้านได้ด้วย
ก่อนจะไปถึงห้องครัวไทย เราจะผ่านประตูทางเข้าบ้านจากด้านลานจอดรถค่ะ นอกจากตรงประตูจะมี Digital Door Lock ให้แล้ว บริเวณนี้ยังมี RueJai Home OS เป็นนวัตกรรมที่เรียกว่าเป็นสมองของบ้าน โดยมีระบบปฎิบัติการผ่าน RueJai Home Panel หรือแผงควบคุมในบ้าน และสามารถควบคุมผ่านสมาร์ตโฟนบนแอปพลิเคชันรองรับ iOS และ Android เพียงแค่ลงทะเบียนก็สามารถควบคุมและเช็กสถานะบ้าน ทั้งระบบไฟภายในปกติดีไหม มีจุดไหนที่รั่ว ซึ่งจะมีเซนเซอร์คอยตรวจจับและแจ้งเตือนให้ทราบ และคุณภาพอากาศภายในบ้านด้วย ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ซึ่งตรงนี้บอกเลยค่ะว่าครอบครัวคนรุ่นใหม่อย่างเราๆจะมานั่งดูนั่งสังเกตบ้าน อาจจะไม่ทันการณ์ค่ะ เพราะไหนจะเวลาทำงาน เวลาทำในสิ่งที่ชอบ และการดูการเช็คจุดต่างๆของบ้านต้องใช้การสังเกตพอสมควร ถ้าหากเราไม่มีเวลาเพียงพอในการคอยสังเกต คอยดูก็อาจจะทำให้มีจุดต้องซ่อมแซมในบ้านที่เราแก้ไขได้ช้าก็เป็นได้ แต่แอพนี้จะช่วยเราเช็คง่ายๆและสามารถเรียกช่างมาช่วยซ่อมได้ทันเวลามากขึ้น
ถัดมาคือพื้นที่ห้องครัวที่เป็นสัดส่วนและมีขนาดใหญ่ สามารถติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวให้เป็นสัดส่วนรูปทรงตัว L ได้ โดยอีกฝั่งสามารถ Built-in ตู้เก็บของในครัวให้เป็นสัดส่วนได้อีกเหมือนกัน เพราะด้วยความที่ห้องครัวกว้างมากๆ คนนึงเตรียมอาหาร อีกคนช่วยหั่นช่วยล้าง ก็เป็นอีกช่วยเวลาดีๆของครอบครัวที่ได้ทำอาหารร่วมกันได้ด้วยค่ะ
นอกจากนี้ห้องครัวยังมีความโปร่งโล่ง ด้วยช่องแสงธรมชาติขนาดใหญ่ที่ส่องมาจากทางด้านหน้าบ้าน
นอกจากนี้บ้านหลังนี้ยังมีห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำรองรับ โดยออกจากประตูทางหลังครัวไทยนะคะ ถือว่าเป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีห้องแม่บ้านพร้อม สามารถหาแม่บ้านมาประจำอยู่ที่บ้านได้สบายๆเลยค่ะ
เข้ามาด้านในบ้าน บริเวณด้านหน้าทางเข้าครัวไทย มีห้องน้ำรองรับสามารถไว้รองรับแขกได้ และยังรองรับทั้งสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำ โดยพื้นที่อาบน้ำได้มีการลดสเต๊ปลง 1 ขึ้น เพื่อแยกส่วนเปียกและแห้งให้เป็นสัดส่วนด้วย
ก่อนจะขึ้นไปดูชั้น 2 มีห้องใต้บันไดที่สามารถเก็บของใช้ในบ้านที่ไม่ค่อยได้ใช้บ่อยให้เป็นสัดส่วนได้ ส่วนบันไดเป็นวัสดุโทนไม้สีน้ำตาลอ่อน
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีพื้นที่ Family Area รองรับอีก 1 มุม สามารถทำเป็นพื้นที่ดูหนังฟังเพลงสำหรับครอบครัวได้ หรือจะปรับพื้นที่ใช้สอยก็สามารถทำได้ตามไลฟ์สไตล์เลยค่ะ สำหรับแพรและพี่แป๊ป เราเป็นสายท่องเที่ยวชอบเดินทางกันค่ะ คิดว่ามุมนี้จะทำเป็นตู้โชว์ของสะสมของรักที่เก็บมาจากประเทศต่างๆก็เป็นอีกความภาคภูมิใจเล็กๆทุกครั้งที่ได้มองนะคะ
มาต่อกันที่ห้องนอน Master Bedroom สำหรับห้องนี้จริงๆจะเป็นห้องนอนที่ค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ ทางโครงการได้มีการกั้นทำมุม Walk-in Closet ไว้ให้เป็นตัวอย่าง และยังมีมุมส่วนตัวสำหรับดูหนังฟังเพลงในห้องได้ด้วย ซึ่งการปรับแต่งพื้นที่ใช้สอยห้องนี้ ขึ้นอยู่กับความชอบของคู่สามีภรรยาได้เลยค่ะ แต่ห้องกว้างขนาดนี้ แพรว่า Walk-in Closet ขนาดใหญ่ต้องมาแล้วค่ะ ตอบโจทย์คนมีเสื้อผ้าเยอะ 555
สำหรับมุมที่นอนสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยค่ะ ยังมีพื้นที่เหลือๆให้เดินรอบเตียงได้สบาย และยังเปิดประตูออกไปรับอากาศมองพื้นที่สีเขียวได้จากระเบียงหน้าห้องด้วย
ภายในห้องน้ำของ Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่พิเศษ และมีอ่างอาบน้ำให้ด้วย ส่วนบริเวณ Shower ก็จะมีฝักบัวพร้อม Rain Shower ให้ มีชั้นวางของให้พร้อม ส่วนมุมเคาน์เตอร์ล้างหน้า ยังมีพื้นที่รอบๆอ่างให้สามารถวางของได้ และเก็บของที่บริเวณชั้นวางของด้านใต้อ่างล้างหน้า ตรงนี้แพรชอบมากๆค่ะ เพราะเวลาทำความสะอาดห้องน้ำก็สามารถนำมาเก็บบริเวณนี้ให้เป็นสัดส่วนได้ หรือจะเก็บของใช้ในห้องน้ำที่เราสต๊อกไว้บริเวณนี้ก็ได้ด้วยนะคะ ส่วนสุขภัณฑ์จะได้แบบอัตโนมัติแบรนด์ COTTO
ห้องนอนที่ 2 มีขนาดรองลงมาจากห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุตได้ รวมไปถึงยังสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้า โต๊ะอ่านหนังสือได้ด้วย ห้องนี้กว้างพอรองรับไปจนถึงลูกโตได้เลยนะคะ
ห้องน้ำที่อยู่ในห้องที่ 2 และ 3 จะมีหน้าตาเหมือนกันๆค่ะ มีสุขภัณฑ์แบรนด์ COTTO มีอ่างล้างหน้า ฝักบัว และชั้นวางของให้เรียบร้อยแล้ว ชอบห้องน้ำของบ้านที่มีมุมชั้นวางของมาให้แล้วนะคะ ทำให้เราไม่ต้องไปนั่งหาซื้อชั้นวางของแล้วมาเจาะผนังเพื่อติดตั้งเพิ่มเองด้วย
ห้องนอนที่ 3 ตกแต่งมาได้น่ารักเหมาะกับลูกสาวคนเล็กมากๆค่ะ เป็นห้องที่พอเหมาะสำหรับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต
ถ้าหากดูภาพรวมจะเห็นว่าทางโครงการได้สร้างบ้านเกือบเต็มพื้นที่เลยนะคะ เพื่อเน้นให้คนในบ้านได้ใช้พื้นที่ใช้สอยได้เยอะที่สุด
ฟาซาดของตัวบ้านโดดเด่นด้วยวัสดุไม้เทียมช่วยให้บรรยากาศบ้านดูอบอุ่น แต่ก็ไม่ต้องกลัวไม้ผุพังง่ายด้วยค่ะ
นอกจากนี้ถนนหลักของโครงการ กว้าง 17 เมตร และยังมีเกาะกลางถนนปลูกต้นไม้ไว้ ซึ่งตรงนี้จะช่วยเพิ่มความร่มรื่นของโครงการเมื่อต้นไม้โตเต็มที่ และที่สำคัญช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากบ้านตรงข้ามได้ดีด้วยค่ะ
ส่วนกลางโครงการ เวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์ – พระราม 9
ส่วนกลางของโครงการนั้นต้องบอกว่าสวยอลังจริงๆค่ะ บนพื้นที่ขนาดใหญ่เกือบ 2 ไร่ เลยทีเดียว และนอกจากนี้การออกแบบส่วนกลางยังได้แรงบันดาลใจจาก รูปทรงหน้าจั่วสีแดง Rorbuer จากเมือง Lofoten Norway ที่ทำออกมาได้สวยโดดเด่นมากๆ
ค่าส่วนกลางของโครงการนี้อยู่ที่ 45 บาท/ตร.ว./เดือน นะคะ
บริเวณนี้มีสระว่ายน้ำระบบเกลือที่ออกกำลังกายได้จริง ยาว 21 เมตร และด้วยข้อดีของสระว่ายน้ำที่อยู่กลางแจ้งแต่มีอาคารทั้ง 2 ด้าน คือจะมีฝั่งที่สามารถว่ายน้ำหลบแดดได้ ไม่ต้องกังวลหรือรอแค่แดดร่มลมตก ก็สามารถมาออกกำลังกายได้ค่ะ ตรงนี้มีแยกสระเด็กสระผู้ใหญ่ไว้เรียบร้อยแล้วด้วย
ข้างๆสระว่ายน้ำ ยังมีมุม Co-Working Space รองรับลูกบ้าน ไว้สำหรับนั่งทำงาน คุยงาน และมีมุมกาแฟเล็กๆรองรับด้วย มุมนี้สามารถมาเปลี่ยนบรรยากาศในการนั่งทำงาน คิดงานได้ดีเลยล่ะค่ะ เพราะเป็นห้องกระจกที่เปิดโล่งมองวิวส่วนกลางได้เต็มๆตาเลย
ทางขึ้นชั้น 2 มีจุดอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ และผู้พิการด้วยนะ
ชั้น 2 จะมีห้องฟิตเนสที่มาพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน เปิดโล่งมองวิวได้ทั้ง 2 ด้าน
และยังมี Kid’s Room ไว้รองรับการทำกิจกรรมของเด็กๆด้วย ซึ่งมุมนี้ทำออกมาได้ดีมีกิจกรรมหลากหลายให้เด็กๆได้เล่นด้วยค่ะ
เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีความร่มรื่น มีพื้นที่สีเขียวเยอะมากจริงๆค่ะ
มากันที่มุมของเด็กๆบ้างค่ะ มุมนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงเหนือในการออกแบบ นอกจากจะใช้สีสันที่สวยงามโดดเด่นแล้ว เครื่องเล่นยังแฝงไปด้วยการเสริมสร้างพัฒนาการทางร่างกายของเด็กๆด้วยนะคะ อย่างมุมปีนหน้าผาจำลองเล็กๆ ไต่เชือกทำให้เด็กๆได้ใช้กำลังแขนขาอย่างเต็มที่ ส่วนแทรมโพลีนนี้นอกจากจะกระโดดสนุกแล้ว ยังมีส่วนช่วยออกกำลังกายทำให้ความสูงของเด็กๆเพิ่มได้ดีด้วยนะคะ (แต่ต้องกินนม กินอาหารที่ถูกสุขลักษณะด้วยนะ) นอกจากนี้รอบๆบริเวณพื้นที่กิจกรรมของเด็กๆทางโครงการยังใส่ใจปูพื้นผิวที่ช่วยลดแรงกระแทก เวลาที่หกล้มก็จะไม่เจ็บมากด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีสไลเดอร์สนุกๆให้เด็กๆได้เล่น และยังมีลูกเล่นที่ทางเดินลอยฟ้าไว้ให้เดินเล่น และยังเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆได้เลยนะ
ใกล้ๆกันยังมีมุมออกกำลังกายของผู้ใหญ่ ที่น่าจะเป็นโมเม้นดีๆที่ลูกๆหลานๆได้มาวิ่งเล่น พร้อมๆไปกับที่คุณตาคุณยายมาเดินเล่นออกกำลังกายเบาๆที่มุมนี้นะคะ แพรมองว่าเป็นพื้นที่ที่ออกแบบมาได้อย่างใส่ใจ ทำให้ลูกบ้านได้มีกิจกรรม มีพื้นที่ที่ให้ออกมาใช้เวลาร่วมกันได้ดี และยังมีความสวยงามลงตัว ทั้งหมดนี้เป็นความภาคภูมิใจที่ดีเลยค่ะ เวลามีเพื่อนมีใครมาหาที่บ้านก็จะเห็นส่วนกลางของโครงการที่โดดเด่นและสวยงาม
นอกจากนี้ทางเดินภายในส่วนกลางยังมีลูกเล่น มีมุมนั่งพักผ่อน ทางเดินขึ้นลง ให้ฟีลเหมือนเดินอยู่บนเทือกเขาไม่ได้เดินบนพื้นราบ มีลูกเล่นเพิ่มความสนุกสนานในช่วงเวลาที่มาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ดีค่ะ
เรื่องความปลอดภัยในการเข้า-ออก โครงการ ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นของ SC Asset เลยค่ะ ประตูเข้า-ออกโครงการควบคุมด้วย Smart Gate (อ่านทะเบียนรถ) เชื่อมต่อกับประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรและแจ้งบ้านเลขที่ โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณนี้ตลอด 24 ชม.
สรุปโครงการ เวนิว ไอดี มอเตอร์เวย์ – พระราม 9
ถ้าจะถามว่าโครงการนี้เหมาะกับใคร ก่อนอื่นต้องบอกว่าถ้าหากเป็นครอบครัวที่ทำงานสายการบิน ทำงานสุวรรณภูมิ อยู่บ้านโครงการนี้เดินทางสะดวกสบายแน่นอน เพียงแค่ 10 นาที ก็ถึงสนามบินแล้ว หรือว่าจะเป็นกลุ่มที่ทำงานในเมืองย่านพระราม 9 ก็สามารถเดินทางไปที่ทำงานกลับมาบ้านได้อย่างสะดวกสบาย เข้าออกเมืองง่ายๆ 2 นาทีถึงทางด่วน* อย่างแพรกับพี่แป็ปเราเป็นคนที่ใช้ชีวิตเข้าเมืองบ่อยค่ะ การเดินทางที่เชื่อมต่อเมืองได้ง่าย มีทางด่วนใกล้ๆก็ช่วยให้เราประหยัดเวลาในการเดินทางได้ดี
และที่นี่ยังออกแบบมาได้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ขยับขยาย เคยใช้ชีวิตในคอนโดมาแล้ว อยากมีพื้นที่มากขึ้น มีสมาชิกในบ้าน สมาชิกในครอบครัวมากขึ้น โครงการนี้มีบ้านหลังใหญ่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้หลายขนาด รวมไปถึงยังเป็นบ้านที่สร้างเต็มพื้นที่ให้เราได้ใช้สอยพื้นที่ในบ้านได้อย่างเต็มที่ด้วยค่ะ แต่ในขณะเดียวกันบ้านแบบใหญ่สุดของโครงการ ก็ยังคงมีลูกเล่นให้คนที่อยากมีพื้นที่ระเบียงนอกบ้านไว้พักผ่อนด้วยนะคะ
สำคัญที่สุดของโครงการนี้เลยค่ะ พื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาเยอะ ใหญ่ จัดเต็ม และต้องบอกว่าไม่ใช่แค่สวยค่ะ แต่ยังใช้ประโยชน์ได้จริง และตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวได้ ครอบครัวที่มีเด็กวัยกำลังเดิน กำลังเล่น ได้มาใช้ส่วนกลางที่นี้ นอกจากจะสนุกแล้วยังเสริมพัฒนาการได้ดีด้วยนะคะ ตรงนี้ถูกใจแม่ๆมากค่ะ ได้เล่นแล้วยังได้ประโยชน์
ราคาบ้าน เริ่ม 10- 20 ล้าน (สอบถามทางโครงการอีกครั้ง)
โปรโมชั่น ลด 1 ล้าน + ค่าส่วนกลาง 2 ปี + ค่าโอน*
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ https://m.scasset.com/BXyi
สอบถามเพิ่มเติม 063-202-6444
แผนที่ https://goo.gl/maps/4GCwuJZLDMdJjtmr5
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด