รีวิว บ้านอิสสระ บางนา บ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ราคาเริ่ม 55 ล้าน*

บ้านอิสสระ บางนา เปิดบ้านตัวอย่างหลังใหม่ ที่มาพร้อมสไตล์การตกแต่งบ้านในแต่ละชั้นที่สร้างอารมณ์ ความรู้สึก ที่แตกต่างกัน ด้วยผลงานการดีไซน์ของ Studio Freehold

โครงการ บ้านอิสสระ บางนา

โครงการบ้านอิสสระ บางนา พัฒนาโดย บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรู 2-3 ชั้น อยู่บนพื้นที่โครงการ 24-3-74 ไร่ มีทั้งหมด 43 ยูนิต ซึ่งตอนนี้ทางโครงการได้มีบ้านตัวอย่างหลังใหม่ที่มาพร้อมการตกแต่งที่ถ่ายทอดเรื่องราวความทรงจำ ความภาคภูมิใจในทุก Moment ต่างๆ ของครอบครัวได้อย่างดี

สำหรับบ้านตัวอย่างหลังใหม่นี้ ได้รับการออกแบบตกแต่งภายใต้ Motto “We never remember Days,we remember Moments” ด้วยผลงานการดีไซน์ของ Studio Freehandกับบ้านหลังใหญ่พิเศษบนที่ดิน 170 ตร.วา สูง 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 800 ตร.ม. มีทั้งหมด 4 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 5 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ครัว Pantry ครัวไทย ห้องแม่บ้าน 2 ห้อง พร้อมลิฟท์

ซึ่งการตกแต่งบ้านหลังนี้ (Abelia+) Studio Freehand ได้นำคำว่า Moment มาใช้เป็นแนวคิดหลักของการตกแต่ง สร้างอารมณ์และความรู้สึกของแต่ละชั้นให้มีความแตกต่างกันไป

ชั้น 1 “Moment of Pride” เป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จของผู้ที่ได้ครอบครองบ้าน มีพื้นที่การใช้งานที่หลากหลายและตอบโจทย์กับครอบครัวใหญ่ มีทั้งพื้นที่รับแขก พื้นที่สังสรรค์ โดยมีเฟอร์นิเจอร์จาก Minotti , Pargoda & co , Quattro หรือไฟตกแต่งที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ รวมไปถึงพื้นที่ใช้งานภายนอก เช่น สระว่ายน้ำ และ Pergola สไตล์ Modern Tropical ที่ออกแบบให้สัมพันธ์กับรูปแบบของตัวอาคารหลัก ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการพักผ่อนให้มีความใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น หรือแม้แต่รองรับการสังสรรค์กับเพื่อนสนิทและคนในครอบครัว

เริ่มจาก Living & Dining Area ที่เป็น Open Plan เชื่อมต่อกัน 3 ส่วนในพื้นที่เดียวกัน เริ่มจาก Living Area ด้วยชุดโซฟา จาก Minotti อาร์มแชร์ จาก Quattro บนพรมแกะขนาดใหญ่ให้สัมผัสถึงความนุ่ม หรูหรา

ส่วนพื้นที่ Dining area มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับได้ถึง 10 ที่ และยังติดกับส่วนที่ 3 คือ Pantry ที่ถูกออกแบบให้เป็น Sunroom ที่มีการเปิดช่องแสงที่หน้าต่างและหลังคาเพื่อรับแสงธรรมชาติและยังเชื่อมต่อกับพื้นที่ใช้งานและพื้นที่สีเขียวภายนอกให้มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

ในส่วนของ Western Kitchen มีการออกแบบให้เชื่อมต่อกับครัวไทย เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในปัจจุบัน ที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันหมดไม่เว้นแม้แต่เรื่องการทำอาหาร มีการวางแปลนแบบ Open Kitchen เชื่อมต่อกับส่วน Dining ใช้โทนสีเบจที่ดูสบายแต่อบอุ่นและมีการใช้วีเนียร์ไม้มาสร้าง Pattern ที่ผนังกับการเลือกหินอ่อนที่มีลายเส้นแร่ที่ชัดมีลักษณะเฉพาะเพื่อให้ดูหรูหราและมีเอกลักษณ์

สำหรับชั้น 2 “Moment of Joy” ชั้นนี้จะสะท้อนถึงช่วงเวลาสำคัญๆในขณะเดียวกันก็สร้างบรรยากาศที่มีความรื่นเริงของปัจจุบันไปด้วย

เริ่มจาก Family Room จะเป็นห้องที่ให้คนในครอบครัวได้มาใช้เวลาร่วมกัน การตกแต่งจะมีความ Playful และมีสีสันมากกว่าห้องอื่นๆ กับการใช้กราฟฟิกเข้ามาผสมผสานทั้งในส่วนที่เป็น 2 มิติ และ 3 มิติ เช่น รูปทรงของเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้สามารถจับต้องได้ เป็นการสร้างลูกเล่นและฟังก์ชั่นให้ดูน่าสนใจ

ในส่วนของห้องนอน แบ่งเป็น Boy’room มีการใช้โทนสีน้ำเงินเข้มเทาตัดกับแดงส้ม พร้อมกับลูกเล่นกราฟฟิกลายตารางที่ดูมีความเป็นผู้ชาย

ในส่วนของห้อง Girl’s room ได้ดึงความเป็นแฟชั่นเข้ามาเป็นแนวคิดมีการใช้เทคนิคการตัดเย็บจีบผ้ามาใช้ ตกแต่งให้สะท้อนออกมาในรูปแบบสมัยใหม่ โทนสีของห้องเป็นพาสเทลให้ดูอ่อนนุ่มละมุน

และในส่วนของห้อง Elderly’s room มีการออกแบบธีมให้มีความคลาสสิคเข้าไป โทนสีและ ornament ที่ใช้จะเป็นแบบ Modern timeless

มาที่ชั้น 3 “Moment of Indulgence” เป็นพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัว ผ่อนคลายเงียบสงบและสบายใจ สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ โทนสีที่ใช้ในชั้นนี้จะเน้นโทนสีธรรมชาติไม่ฉูดฉาดและยังมีพื้นที่ใช้สอยเหมาะกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่

เริ่มที่ห้อง Relaxation room มีการใช้รูแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ดูไม่เป็นทางการ รูปแบบทรงโค้งมน เช่น Sofa จาก Quattro มีส่วนใช้นั่งพักผ่อนหรือทานอาหารโดยที่ไม่ต้องลงไปข้างล่าง ขณะที่ห้อง Study room มีไว้รองรับการทำงานในวันที่ต้องการความเงียบสงบ ในส่วนนี้จะมีทั้งมินิบาร์และห้องน้ำที่สามารถเข้าอกได้ 2 ช่องทาง เนื่องจากมีพื้นที่ไม่ใหญ่มากจึงเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการใช้โทนสีที่แตกต่างจากห้องอื่นๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง

Master Bedroom มีจุดเด่นด้วยห้องแต่งตัวที่แยกชายหญิง โดยห้องผู้ชายสามารถเข้าได้จากในห้องนอนและจากทางเดินเข้าห้องเพื่อให้เกิดความสะดวกขึ้น ส่วนห้องผู้หญิงมีโต๊ะแต่งตัวและกระจกเงาเต็มตัวแบบ 3 ทาง ที่ด้านบนเป็นช่องแสงธรรมชาติเพื่อให้แสงจากภายนอกเข้ามาที่พื้นที่ด้านใน ตู้เสื้อผ้าออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้นโดยมีช่องเปิดตรงกลางสำหรับชุดที่กำลังจะเปลี่ยนใส่ หรือวางของที่ใช้บ่อยพร้อมทั้งมีพื้นที่เก็บกระเป๋าและรองเท้าโดยเฉพาะแยกเป็นสัดส่วน

ถัดไปเป็นบ้านตัวอย่างหลังใหม่ กับสไตล์การตกแต่งที่มีความ Modern Luxury สะท้อนให้เห็นถึง “บ้าน” ที่เป็นจุดศูนย์รวมในการอยู่อาศัยของทุกคนในครอบครัวที่หลากหลายเจนเนอเรชั่น ด้วยผลงานการดีไซน์ By Olivia Living (โอลิเวีย ลีฟวิ่ง) ผู้นำเข้าเฟอร์นิเจอร์แบรนด์พรีเมียมระดับโลก และอินทีเรียดีไซน์ด้านการออกแบบตกแต่งภายในอย่างครบวงจรกับการตกแต่งบ้านหลังใหญ่ บนที่ดิน 142.4 ตารางวา สูง 3 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 700 ตารางเมตร ประกอบด้วย 6 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ พร้อมห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น ครัว Pantry ครัวไทย ห้องแม่บ้าน 2 ห้อง พร้อมลิฟท์

สำหรับรูปแบบของการตกแต่งบ้านหลังนี้ (Abelia) เป็นแบบบ้าน 3 ชั้น Olivia Living ได้วางคอนเซ็ปต์การตกแต่งบ้านให้เป็นแนว Modern Luxury มีความโอ่อ่า หรูหรา ทันสมัย แต่ยังคงความเรียบง่าย ด้วยการเลือกใช้โทนสีโดยรวมของบ้านที่เป็นสีเทาอ่อน สีเบจ เป็นสีหลักในการตกแต่ง

ชั้น 1 ในส่วนของโซน Living Area ถือเป็นศูนย์รวมของสมาชิกภายในบ้านได้ทำกิจกรรมร่วมกัน หรือแม้แต่การที่เพื่อนๆ แวะเวียนมาพบปะสังสรรค์ ดังนั้นการวาง Layout จึงให้ความสำคัญกับ Open Space ที่สามารถเชื่อมพื้นที่กันระหว่างโซน Living, Dining และ Pantry สมาชิกในครอบครัวสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้กันได้อย่างมีความสุข อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับครอบครัว โดยในโซน Living นี้ได้มีการนำหินอ่อน Palissandro Classico สีชมพูอมน้ำตาล ลายเส้นแร่สีน้ำตาลประกายทอง มา ตกแต่งบนผนังทีวี มีการเลือกเฟอร์นิเจอร์โซฟา TIMOTHY Collection จาก แบรนด์ Meridiani นำเข้าจาก Italy เป็น Modular sofa  2 ชิ้นต่อกัน ในรูปทรงที่โปร่ง พนักพิงไม่สูงจนเกินไป ทำให้ห้องดูไม่อึดอัด สามารถเลือกขนาดได้ตามไซส์ของบ้านได้อีกด้วย

อีกทั้งยังมีการจัดวาง Layout เพื่อสร้าง Space ให้มีความต่อเนื่องมายัง คอร์ตยาร์ต (COURTYARD) พื้นที่สีเขียวรอบตัวบ้านที่จัดตกแต่งในสไตล์ Western ที่เน้นความเรียบง่าย แต่หรูหรา เลือกใช้ของตกแต่งที่ไม่ต้องอาศัยงานโครงสร้าง ง่ายต่อการดูแลรักษา เพื่อสร้าง Inspiration ในการตกแต่งสวนที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ภายในสวนจัดวางชุดโซฟา เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยทำให้เกิดการใช้งานที่ต่อเนื่องของผู้อยู่อาศัย ใช้น้ำพุเป็นจุดดึงสายตา สร้าง Movement และความมีชีวิตชีวาให้กับวิวภายนอก

ในส่วนของการเลือกสรรพันธุ์ไม้ภายในสวน มีการเลือกพันธุ์ไม้ที่ทนต่อสภาพอากาศ เหมาะกับสภาพแสง มีกลิ่นหอม ดูแลง่าย ไม่ทำลายโครงสร้างบ้าน ปลูกแล้วเป็นมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย  เช่น ต้นมั่งมี ต้นล่ำซำ ต้นกันเกรา ต้นกระพี้จั่น ต้นลำดวน และต้นปีบ ซึ่งเป็นไม้ยืนต้น ให้ร่มเงา มีกลิ่นหอม นอกจากนี้ยังเลือกใช้ไม้พุ่มเตี้ย และไม้คลุมดินที่มีรูปร่าง และขนาดของใบที่ต่างกันมาเพิ่ม Texture ให้กับสวน เช่น ต้นเกล็ดกะโห้ ต้นสนใบพาย ต้นพุดพิชญา ต้นเดหลีใบโพธิ์ ต้นเข็มอินเดีย หญ้ามาเล และต้นหนวดปลาดุกแคระ

ส่วนของโซน Dining Area มีการจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารหินอ่อนขนาดยาวเกือบ 3 เมตร มาพร้อมกับเก้าอี้หนังที่เป็นสีส้ม Amber ให้ตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลเทา ที่สีน้ำตาล และสีเทา ใช้เป็นสีของเฟอร์นิเจอร์หลักของชั้นนี้ และยังถือว่าเป็นโทนสีมาแรงของปี 2023 เพื่อสร้างจุดดึงดูดสายตา ทำให้บรรยากาศบ้านดูหรูหรา โอ่อ่า แต่ยังคงมีความสดใสซ่อนอยู่ สามารถรองรับสมาชิกภายในบ้านได้มากถึง 10 ที่นั่ง นอกจากนี้ไฮไลท์ของโซนนี้ยังประดับด้วย Sirene Smoke Glass Chandelier จากแบรนด์ Restoration Hardware นำเข้าจาก America ซึ่งมีเพียงตัวเดียวในประเทศไทย ขณะที่ในส่วนของ Pantry มีการปรับรูปแบบให้มีความแตกต่างมากขึ้นด้วยการเพิ่มเก้าอี้สตูล ปรับรูปทรงครัวไอแลนด์ เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานให้เป็นเป็นมุมปาร์ตี้สังสรรค์เบาๆ ได้

นอกจากนี้ชั้น 1 ยังมีการแบ่งโซนห้องนอนรับแขก หรือ Guest Room ที่อาจจะแวะเวียนมาพักอาศัยชั่วคราวให้มีความเป็นส่วนตัว ไม่ติดกับห้องใดๆ ภายในห้องมีความสะดวกสบายในการพักผ่อน โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบห้องให้มีขนาดใหญ่ ไม่มีการกั้นผนัง ห้องนอนเชื่อมโยงตรงกับตู้เสื้อผ้า ไม่เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ แต่ยังคงสามารถรับวิวสวนเมื่อเปิดม่านในยามเช้าได้อีกด้วย

มาต่อที่ชั้น 2 แบ่งเป็น 4 ห้อง 4 ฟังก์ชั่น ประกอบด้วย Family Room, Junior Master Bedroom, Girl’s Room และ Spa Room โดยคอนเซ็ปต์ของชั้นนี้อยากตกแต่งออกมาให้เป็นชั้นของ Family เล็กๆ เป็นชั้นของครอบครัวขยาย ที่แยกออกมาอีกชั้นหนึ่ง ชั้นนี้จะมีความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น

เริ่มจากห้องแรกอย่าง Family Room เป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง มีการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีลูกเล่นของความโค้งมนทำให้ห้องนี้ดูมีความผ่อนคลาย เป็นกันเอง อีกทั้งยังวางแปลนให้มี Pantry เล็กๆ สำหรับสมาชิกในบ้านเพื่อเพิ่มความ Private โดยไม่จำเป็นต้องลงไปชั้นล่าง นอกจากนี้เองจุดเด่นของห้องยังเป็นห้องหัวมุมสามารถเห็นวิวตอนพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้สวยงามอีกด้วย

ในส่วนของห้องนอนแบ่งเป็น Junior Master Bedroom ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกันกับ Family Room เปรียบเสมือนเป็น Penthouse ของครอบครัว การออกแบบห้องนี้จึงมีความเป็น Contemporary ที่ออกไปทาง Masculine ดังนั้นจึงมีการเลือกใช้สีภายในห้องนอนให้ดูมีความสดใสมาตัดกับสีดำ

บริเวณ Foyer ที่เดินเข้ามามีการนำ Artwork จากแบรนด์ Leftbank Art มาตกแต่ง นอกจากนี้ในส่วนของบริเวณหัวเตียงกรุเป็นเหมือนผนังที่เต็มทั้งผนัง แต่ยังมีฟังก์ชั่นที่บานประตูขวาของเตียงให้สามารถสไลด์ออกเพื่อให้แสงสว่างเข้าได้อีกด้วย ขณะที่ Walk-in closet ของห้องนี้มีการนำประตูบานเลื่อนที่หน้าบานกระจกมี Texture พิเศษที่ช่วยทำให้ห้องดูโปร่ง 

ถัดมาที่ห้อง Girl’s Room มีการวางคอนเซ็ปต์ให้ห้องนี้เป็นห้องนอนของลูกสาวที่โตขึ้นมาหน่อย ห้องนี้จะมีความเป็น Feminine มีสีสัน สดใส ตกแต่งด้วยสีโทนฟ้า เขียวมิ้นต์ มีการใช้ผนังลอน เพื่อทำให้ห้องดูอ่อนโยน แต่ยังคงความสดใสจากสีของเฟอร์นิเจอร์

ส่วนอีกห้องที่เป็นไฮไลท์ของชั้นนี้ Spa Room เป็นการปรับฟังก์ชั่นจากห้องนอน มาเป็นห้องสปาเพื่อให้บ้านมีพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้นนอกจากการทำเป็นห้องนอน สำหรับห้องสปานี้มีความเป็นส่วนตัว และเป็นการปรับตามเทรนด์การสร้างพื้นที่ใช้สอย หรือพื้นที่ในการทำกิจกรรมที่ผู้อยู่อาศัยไม่สะดวกที่จะออกไปทำข้างนอก ซึ่งห้องนี้มีการออกแบบให้ดูมีลูกเล่น มีการใช้สีฟ้าอมเขียว ทำให้ดูสดใส และผ่อนคลาย

ในส่วนของชั้น 3 เปรียบเสมือนเป็นอาณาจักรของเจ้าของบ้าน เพราะทุกๆ โซนของชั้นนี้จะมีพื้นที่ใหญ่มาก เริ่มตั้งแต่ห้อง Master Bedroom มีการแบ่งฟังก์ชั่นของห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องทำงาน อย่างชัดเจน ห้องนี้เปรียบเป็นห้องของคุณพ่อ คุณแม่ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มีความสุขุม เยือกเย็น จึงมีการเลือกใช้สี Steel Blue & Gold ในการตกแต่งห้องให้ดูผ่อนคลาย และสบายตา ส่วน Walk-in closet จะแบ่งการใช้งานอย่างชัดเจน โดยมีที่นั่งสำหรับแต่งหน้า 2 ที่ พร้อมกระจกบานใหญ่ ตู้เสื้อผ้ายาว 2 ฝั่ง แยกชายหญิง

ส่วนอีกหนึ่งห้องสุดท้ายคือ Elder Room เป็นห้องที่อยู่ติดกับลิฟท์โดยสาร การออกแบบคำนึงถึงการใช้งานของผู้สูงอายุ ให้ความสำคัญกับพื้นที่ห้องที่กว้างขวาง จัดสรรพื้นที่รองรับสำหรับ Wheelchair มีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมน ขนาดของเตียงจะไม่สูงมาก เป็นขนาดที่สั่งทำพิเศษ เพิ่มฟังก์ชั่นมุมเขียนหนังสือเล็กๆ มีการใช้โทนสีสว่างให้กับห้อง ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาล สีทอง ด้าน Walk-in closet จะไม่มีประตูกั้น เพราะคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก ตู้เสื้อผ้าจึงมีทั้งแบบหน้าบานเปิดและหน้าบานปิดผสมกัน

สิ่งอำนวยความสะดวก บ้านอิสสระ บางนา

นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีคลับเฮ้าส์ มาพร้อมฟิตเนส Amphitheater สระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมโอบล้อมไปด้วยความเขียวขจีของสวน

ลูกค้าที่สนใจร่วมสัมผัสประสบการณ์บ้านหรู กับโปรโมชั่นสุดพิเศษ TRUE Freedom! อิสสระเกินพิกัด เลือกรับหนี่งแพคเกจตามใจคุณ

  • อิสสระการเดินทาง เลือกรับรถยนต์ Bentley มูลค่า 15 ลบ.*
  • อิสสระการออกแบบ เลือกรับแพ็คเกจ Olivia Living Decoration มูลค่า 15 ลบ.*
  • อิสสระทางการเงิน เลือกรับส่วนลดสูงสุด 15 ลบ.*

ลงทะเบียนนัดเข้าเยี่ยมชม  https://bit.ly/3WVeN1c

สอบถามเพิ่มเติม 02-0803995

Line OA : https://lin.ee/otDCZbH

Leave a Reply

%d