บ้านรีวิวบ้าน

รีวิว Demi Sathu 49 ดีลักซ์ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น บนทำเลย่านพระราม 3

โครงการ DEMI Sathu 49 เป็นโครงการแนวราบแบรนด์ใหม่ของแสนสิริ ที่มาเปิดตัวบนทำเลที่ต้องบอกว่าหาที่ดินได้ยากมากแล้ว ซึ่งตัวโครงการนั้นจะอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 49 ที่ถือว่าโดดเด่นมากๆ เพราะเชื่อมต่อเข้าสาทร-สีลม-พระราม 4 ได้อย่างสะดวก

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้กับโครงการ แถบนั้นมีห้างค่อนข้างเยอะ ตอบโจทย์การจับจ่ายใช้สอยได้เป็นอย่างดี ทั้ง เซ็นทรัลพระราม 3 โลตัส พระราม 3 โฮมโปร พระราม 3 และที่สำคัญ Terminal 21 พระราม 3 ที่เปิดให้บริการแล้วด้วย

นอกจากห้างใกล้ๆโครงการยังมีโรงเรียนที่จะตอบโจทย์ให้บุตรหลานได้เข้าเรียน ทั้ง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ,โรงเรียนสารสาสน์พิทยา ,โรงเรียนเปรมฤดีศึกษา ,โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ ,โรงเรียนนานาชาติเรนทรี ,NSIS Intrnational School ,King’s Collage International School Bangkok

อีก 1 ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้คือ ร้านอาหารย่านพระราม 3 ที่มีค่อนข้างหลากหลาย ตอบโจทย์ได้ครบทั้งสายอาหารบุฟเฟต์ สายอาหารจีน บรรยากาศร้านแบบน่านั่งติดริมน้ำ เรียกได้ว่าใครมีบ้านอยู่โซนนี้ไม่ต้องกลัวหาของกินยากเลยค่ะ

การเดินทางสำหรับคนที่อยู่โครงการ DEMI Sathu 49 นั้นถือว่าสะดวกสบายมากๆ เพราะเมื่อออกจากปากซอยสาธุประดิษฐ์ 49 ที่เป็นที่ตั้งของโครงการ ก็จะเชื่อมถนนสาธุประดิษฐ์ และถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ที่ยังเชื่อมต่อไปถนนหลักๆอีกหลายเส้นสายด้วย ถ้าหากจะใช้ทางด่วน ออกไปเพียง 1.9 กม. จะมีทางด่วนศรีรัช ที่มุ่งตรงเข้าสู่ย่านจุฬา สามย่าน และอนุสาวรีย์ ได้อย่างสะดวก

โครงการ DEMI Sathu 49

DEMI Sathu 49 เป็นโครงการที่ถูกดีไซน์ออกมาภายใต้แนวคิด “ชีวิตสมดุล” ระหว่าง “ชีวิตเมือง” และ “ความสงบผ่อนคลาย” ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวทั้งการออกแบบฟังก์ชั่นให้เป็นแบบไลฟ์สไตล์คนเมืองโดยมีธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการพักผ่อน จึงได้นำ Ventilation Design หลักการดีไซน์บ้านเย็นมาใช้ในการออกแบบด้วย   โดยมีพื้นที่ทั้งโครงการนี้มีทั้งหมด 10-2-34.32 ไร่ โดยจะมีทาวน์โฮมทั้งหมด 72 ยูนิต ที่ถือว่าส่วนตัวมากๆ

และจะมีบ้านทั้งหมด 2 แบบ คือ

DEMI 6 ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 6 เมตร ที่ดิน 23-48 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 212-215 ตร.ม.

DEMI 8 ทาวนโฮม 3 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดิน 31-49 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม.

สำหรับการจัดวางแปลนบ้านในโครงการ ได้วางหน้าบ้านหันออกเหนือใต้เป็นส่นใหญ่ จะมีแค่เพียงโซนด้านหน้าโครงการที่เป็น DEMI 6 ที่หันทิศตะวันออก ดังนั้นบ้านส่วนใหญ่จะได้รับลมค่อนข้างดี


แบบบ้านโครงการ DEMI Sathu 49

ก่อนที่เราจะพาไปดูรายละเอียดของฟังก์ชั่นในบ้านทั้ง 2 แบบ ต้องขอเล่าก่อนว่าโครงการ DEMI Sathu 49 ทางแสนสิริเค้าตั้งใจออกแบบฟังก์ชั่นได้อย่างเข้าใจคนใช้ชีวิตในบ้านทั้ง 2 แบบจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการยกรูปแบบฟังก์ชั่นการใช้ชีวิตของคอนโดมิเนียมเข้ามาไว้ในตัวบ้าน หรือแม้แต่การออกแบบพื้นที่ที่คล้ายถิ่นที่อยู่เดิมของคนในย่านนี้ แต่ขยายกว้างมากขึ้น ปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้มากขึ้น

โดยดีไซน์เด่นๆ และฟังก์ชั่นที่โดดเด่น จะมีแตกต่างกันไปในบ้านทั้ง 2 แบบ

  • DUPLEX MASTER BEDROOM เพดานสูงกว่า 5.65 เมตร พร้อมส่วนอเนกประสงค์ชั้นลอยภายในบริเวณห้องนอน ในแบบบ้าน DEMI 6 จะเหมือนยกรูปแบบ Duplex Condominium มาไว้ในทาวน์โฮม
  • DOUBLE VOLUME LIVING เพดานสูงกว่า 5 เมตร พร้อมกระจกบานสูง บริเวณส่วนรับแขกในแบบบ้าน DEMI 8 ที่มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัวใหญ่
  • PENTHOUSE MASTER BEDROOM ห้องนอนใหญ่ เต็ม Floor ในแบบบ้าน DEMI 8 พร้อม Walk-in Closet และห้องน้ำที่รองรับอ่างล้างหน้า His-Her,Bathtub และ Automatic Toilet
  • Panoramic Rooftop พื้นที่ชั้นบนสุดภายในบ้าน DEMI 8 ซึ่งเป็น Highlight ในการชมวิวเมือง และสามารถใช้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้
  • มีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องนอนทุกแบบบ้าน พร้อม Shower Encloser
  • Lift ส่วนตัวภายในบ้าน แบรนด์ Hitachi รองรับน้ำหนักได้ 300 KG
  • สายไฟลงดิน เพิ่มทัศนียภาพทั้งโครงการพร้อมพื้นที่สีเขียวที่ไม่ได้มีแค่ที่ส่วนกลาง แต่ยังมีให้ในบ้านทุกหลัง ภายใต้ความปลอดภัยมาตรฐาน
  • มีระบบความปลอดภัยของแสนสิริพร้อม LIV-24 รองรับ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ

 

มาเริ่มกันที่ทางเข้าหน้าโครงการ คือมั่นใจได้ว่าผ่านการคัดกรองคนเข้าออกโครงการ มีประตูเปิดปิดมิดชิด และมีการแลกบัตรเมื่อมีผู้ภายนอกเข้ามาในโครงการ

บริเวณนี้จะเป็นประตูทางเข้าด่านที่ 2 ที่จะเข้าไปยังโซนผู้พักอาศัย เป็นประตูระบบอัตโนมัติที่เปิดให้ลูกบ้าน แต่สำหรับบุคคลภายนอกจะไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ จะต้องจอดรถที่บริเวณด้านหน้านี้เท่านั้น เป็นการเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในโครงการได้อย่างดีมากๆ

เมื่อผ่านเข้ามาด้านในโครงการ DEMI Sathu 49 จะพบกับคลับเฮ้าส์ที่อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ และจะมีบ้านแบบ DEMI 6 ที่หันหน้าทิศตะวันออก ที่โซนแรกของโครงการ

บ้านแบบแรกที่จะพาเข้าไปดูกันคือ บ้านแบบ DEMI 6 ที่มีที่ดินเริ่มต้น 23-48 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 212-215 ตร.ม. เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง หน้ากว้าง 6 เมตร

ด้านหน้าของตัวบ้านที่โครงการ DEMI Sathu 49 ทัศนียภาพดีมากๆ เพราะสายไฟถูกเก็บไว้ใต้ดินหมดแล้ว รวมไปถึงยังมีตู้เมนไฟที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัวบ้านทุกหลัง ทำให้เวลาซ่อมแซมสามารถทำได้ง่าย และไม่ต้องเข้าไปในตัวบ้านด้วย

หน้าบ้านของ DEMI 6 กว้าง 6 เมตร รองรับการจอดรถได้ถึง 3 คัน ซึ่งทางแสนสิริเค้าออกแบบมาอย่างดีแล้วว่า สามารถรองรับการจอดรถ  สปอร์ต และรถขนาดใหญ่อย่างรถแวนได้ด้วยเช่นกัน

การดีไซน์ตัวบ้านโดดเด่นตั้งแต่ด้านหน้าบ้านที่มีช่องแสงขนาดใหญ่ให้เปิดรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้ โดยได้เลือกใช้กระจกแบบ Euro Grey Glass ที่นอกจากจะช่วยกรองแสง UV เข้าสู่ตัวบ้านแล้ว ยังช่วยลดการมองเห็นจากภายนอกสู่ภายในบ้านด้วย ส่วนประตูทางเข้าหลักเป็นประตูไม้สักที่มีขนาดและน้ำหนักพอดีแบบที่คิดและคัดสรรมาแล้ว รวมไปถึงยังมีระบบเปิดปิดประตูแบบ Digital Door Lock แบรนด์ Kaadas ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำจากเยอรมันมีชื่อเสียงในด้านการผลิดที่เข้มงวดและแม่นยำ มาให้แล้วด้วย และเพื่อความกลมกลืนกับความเป็นธรรมชาติ ที่บริเวณด้านหน้าของตัวบ้านทางโครงการได้นำพื้นผิวจากหิน Stone Surface ที่เป็นหินธรรมชาติมีลวดลายสวยงามมีความแข็งแรงคงทนตามธรรมชาติของหิน ซึ่งนอกจากจะสวยตามธรรมชาติแล้วยังทำความสะอาดง่าย สีไม่ซีดจาง และมีความยืดหยุ่นด้วย

เข้ามาด้านในบ้านชั้นแรก จะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่ค่อนข้างกว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะกลางได้ โดยการออกแบบตกแต่งภายในบ้านแบบนี้จะมีความโมเดิร์นและมีสีสันที่เข้ากับคนรุ่นใหม่ที่มีความแอคทีฟมีไลฟ์สไตล์ที่ชอบอะไรใหม่ๆมีสีสันในชีวิต

สำหรับพื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมต่อมาจากบริเวณห้องนั่งเล่น จะเป็นส่วนที่ทางโครงการได้ต่อเติมไว้ให้เป็นตัวอย่าง เพื่อให้เห็นถึงพื้นที่การใช้สอยที่เชื่อมกันอย่างลงตัว

สำหรับพื้นที่ครัวนั้นรองรับการทำอาหารได้เป็นอย่างดี เพราะว่ามีประตูบานสไลด์กั้นไว้อย่างเป็นสัดส่วน

ส่วนห้องซักล้างนี้ จะเป็นส่วนที่ต่อเติมจากครัวเพิ่มมา เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าสามารถทำเป็นห้องซักล้างอย่างเป็นสัดส่วนได้

ก่อนจะขึ้นไปที่ชั้น 2 บริเวณทางขึ้นบันได จะเป็นห้องน้ำที่มีแค่สุขภัฑณ์และอ่างล้างหน้ารองรับ ถือว่าตอบโจทย์การใช้สอยสำหรับการใช้ชีวิตที่ชั้น 1 ของตัวบ้านแล้ว

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นห้องนอน Duplex Master Bedroom ที่โดดเด่นด้วยเพดานสูงถึง 5.65 เมตร โดยห้องนี้จะเป็นการออกแบบที่เหมือนยกเอา Duplex Condo มาไว้ให้แล้ว เพื่อรองรับการใช้ชีวิตในห้องนี้ที่ตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง

โซนที่นอนกว้างขวาง วางเตียงคิงไซส์ได้ และยังโปร่งโล่งมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าตัวบ้าน

ด้านข้างกันยังมีมุมที่สามารถออกแบบให้เป็น มุมแต่งหน้าแต่งตัวอย่างเป็นส่วนตัวได้ ซึ่งบริเวณนี้จะเชื่อมต่อมาจาก Walk-in Closet อย่างเป็นสัดส่วน

มุมนี้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้แบบจัดเต็ม รองรับไลฟ์สไตล์เก๋ๆ และจะเชื่อมต่อมาจากห้องน้ำในตัวด้วย

ภายในห้องน้ำของ Duplex Master Bedroom นั้นนอกจากจะออกแบบมาได้อย่างสวยงามแล้ว ยังคำนึงถึงการใช้สอยที่รองรับ New Normal จึงได้เลือกใช้ระบบอัตโนมัติทั้งหมด อ่างล้างหน้ารองรับรูปแบบ His&Her เป็นวัสดุแบบ Solid Surface หินสังเคราะห์ ที่พัฒนาขึ้นมาให้มีคุณสมบัติเหมือนวัสดุหินธรรมชาติทั่วไป มีคุณสมบัติที่ทนทาน เหนียวแน่น และมีผิวสัมผัสทั้งสีและลวดลายเหมือนธรรมชาติ ที่สำคัญเลยคือไม่เกิดแบคทีเรียและลดการเกิดเชื้อราด้วย ส่วนกระจกด้านหน้าเคาน์เตอร์ล้างหน้า เป็นระบบ Touchless รองรับการใช้งานด้วย ในส่วนของก็อกน้ำที่นี่มีความพิเศษมากๆ เพราะเป็นก็อกน้ำที่ COTTOออกแบบร่วมกับ Naoto Fukusawa ใน OVAL Collection ทำให้ได้ก็อกน้ำที่มีความโค้งมนรับการดีไซน์ของตัวบ้าน

ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะมีทั้ง Rain Shower และ Bathtub โดยเลือกใช้แบรนด์ COTTO ซึ่งในส่วนพื้นที่อาบน้ำนั้นจะเชื่อมต่อกับระเบียงพื้นที่สีเขียวที่เปิดมุมมองเชื่อมต่อในห้องน้ำ กับทางขึ้นบันไดบ้าน ทำให้ได้แสงธรรมชาติและได้พื้นที่สีเขียวไปพร้อมๆกัน

ขึ้นมาที่ชั้นลอยของห้อง Duplex Master Bedroom ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตให้เป็นมุมทำงาน มุมพักผ่อนได้อย่างส่วนตัว โดยบริเวณนี้จะมีระเบียงกว้างเทียบเท่าคอนโด และออกไปนั่งชิล ใช้ชีวิตได้จริงด้วย

 

พื้นที่ระเบียงกว้างสามารถปลูกต้นไม้เพิ่มความสดชื่นให้กับผู้พักอาศัยได้

 

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีทั้งหมด 2 ห้องนอน โดยห้องด้านหน้าของตัวบ้าน ทางโครงการได้ออกแบบให้เป็นห้องทำงาน และเป็นห้องที่มาพร้อมห้องน้ำในตัวด้วยนะ

ห้องน้ำจะมาพร้อมช่องรับแสงแบบนี้เลย โดยได้แบ่งพื้นที่เปียกแห้งออกจากกันด้วย Temper Glass

ห้องนี้จะเป็นอีก 1 ห้องนอน ที่ทางโครงการได้ออกแบบให้เป็นห้องนอนลูก ซึ่งเป็นห้องนอนลูกที่กว้างขวางมาก สามารถวางเตียงคิงไซส์ได้ และยังตกแต่งตู้เสื้อผ้า ตู้โชว์ โต๊ะอ่านหนังสือเพิ่มเติมได้แบบมีพื้นที่เหลือๆ รวมไปถึงยังมีระเบียงส่วนตัวด้านหลังตัวบ้านด้วยนะ

ห้องน้ำภายในตัวห้องนอนจะมีหน้าตาประมาณนี้ มีแยกสัดส่วนชัดเจน ที่ชอบมากๆคือ การดีไซน์ให้มีชั้นวางของรองรับการใช้งานในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว จะแชมพูอาบน้ำ ยาสระผม หรืออุปกรณ์อื่นใดๆก็สามารถบนชั้นได้อย่างเป็นระเบียบ โดยไม่ต้องติดตั้งชั้นวางอื่นๆเพิ่มแล้ว

ตรงนี้จะเป็นทางขึ้นบันไดมาชั้น 3 ของตัวบ้านที่ดูโปร่ง และสว่างมากๆ ทางโครงการเค้าคิดช่องแสง ช่องไฟ มาได้อย่างใส่ใจรายละเอียดจริงๆ และในส่วนของวัสดุพื้นบ้านชั้น 2-3 นั้น จะเป็นพื้นลามิเนตไม้คอร์ค เป็นพื้นที่ไม้ธรรมชาติที่ให้สัมผัสดี มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังทำความสะอาดง่าย ลดแรงกระแทก ทนต่อการใช้งานด้วย


บ้านแบบ DEMI 8

ต่อไปจะเป็นบ้านแบบ DEMI 8 ที่มีหน้ากว้าง 8 เมตร 3 ชั้นครึ่ง พร้อม Panoramic Rooftop พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 31 ตร.วา จอดรถได้ 3 คัน

บ้านแบบนี้จะดีไซน์พื้นที่หน้าบ้านคล้ายๆกับ DEMI 6 แต่จะกว้างกว่า และยังมีตู้เก็บของด้านหน้าบ้านรองรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับรถ อุปกรณ์ออกกำลังกาย ก็สามารถจัดเก็บได้อย่างเป็นสัดส่วน

 

นอกจากพื้นที่จอดรถที่รองรับและตอบโจทย์แล้ว ทางโครงการยังได้ใส่ EV Charger ไว้ให้ในทุกๆหลัง ซึ่งจะเป็นรุ่นล่าสุดอพเดทสุด เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆของการใช้รถด้วย

นี่ก็คือ Digital Door Lock ที่ทางโครงการเลือกใส่ให้ในทุกๆหลังเหมือนกันนะ เรียกได้ว่าคัดสรรมาอย่างดีและใส่ใจมากๆ

สำหรับการออกแบบพื้นที่ภายในบ้าน DEMI 8 ต้องอธิบายก่อนว่า ทางแสนสิริเค้าทำออกมาได้ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวใหญ่ที่อาจจะมีอางกอาม่ามาอยู่ด้วย ซึ่งในโซนสาธุประดิษฐ์นี้ถิ่นที่อยู่อาศัยเดิมมักจะเป็นตึกแถวที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด และค่อนข้างคับแคบ ไม่สามารถขยับขยายเพิ่มเติมได้ ที่นี่จึงได้ออกแบบรองรับกลุ่มครอบครัวนี้ที่ต้องการขยายพื้นที่ใช้สอย การออกแบบตกแต่งภายในบ้านจึงได้ออกแบบจีนๆแต่ยังได้ใส่ความโมเดิร์นลงไปด้วย แม้กระทั่งลายพื้นกระเบื้องยังคิดมาแล้วว่าเป็นลายที่ออกแนว Modern Chinese ได้อย่างลงตัวมากๆ

อย่างพื้นที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน DEMI 8 จะเป็นพื้นที่แบบ Double Volume ทั้งหมด ด้วยเพดานสูงกว่า 5 เมตร พร้อมกระจกบานสูง ที่ทางโครงการได้เลือกออกแบบให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นเพดานสูง เพราะคนจีนจะใช้เวลากับลูกหลานค่อนข้างเยอะ ซึ่งพื้นที่ห้องนั่งเล่นมักจะเป็นจุดรวมพบปะหน้าตาของทุกคนในครอบครัว พื้นที่นี้จึงได้ออกแบบให้มีความโปร่งโล่ง สามารถอยู่ได้แบบไม่อึดอัดและยังมีความเป็นส่วนตัวของกันและกัน เมื่อเข้าในตัวบ้านห้องนั่งเล่นจะแยกออกไปด้านขวาของตัวบ้าน และมีบันไดขึ้นชั้นบนที่ด้านซ้ายของตัวบ้าน ทำให้ไม่ต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่นในช่วงเวลาที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

เห็นได้ชัดว่าโปร่งโล่งมากจริงๆ ช่องแสงด้านหน้าตัวบ้านเป็นกระจกแบบเต็มบาน บริเวณนี้สามารถจัดวางโซฟาขนาดใหญ่ได้แบบมีพื้นที่เหลือๆ

ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารจะเชื่อมต่อมาจากห้องนั่งเล่น บริเวณนี้ยังได้เพดานสูงโปร่งด้วยเช่นกัน พื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถรองรับโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ได้

ด้านข้างกันกับพื้นที่ทานอาหาร จะเป็นห้องครัวที่เป็นสัดส่วน ทางโครงการได้ออกแบบติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวให้เรียบร้อย และยังมีห้องเก็บของภายในพื้นที่ห้องครัวอย่างเป็นสัดส่วนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นจุดแตกต่างในครัวที่ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้นด้วย

ถัดมาโซนนี้จะอยู่ด้านหลังของตัวบ้าน ที่ทางโครงการได้ออกแบบต่อเติมให้เป็นตัวอย่าง เพื่อเป็นห้องรองรับอากงอาม่าได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักผ่อน ห้องจิบน้ำชา หรือแม้แต่จะทำเป็นห้องนอนอากงอาม่าที่ชั้นล่างก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าชั้นล่างมีห้องน้ำรองรับเรียบร้อยแล้ว และเป็นห้องน้ำที่มีทั้ง Shower และสุขภัณฑ์รองรับครบครัน ห้องนี้ถือว่ามีขนาดกว้างพอสมควร และยังเชื่อมต่อกับพื้นที่ในบ้านได้อย่างลงตัวด้วย

นี่คือห้องน้ำชั้นล่างที่เราได้บอกไปข้างต้นนะ มีครบตอบโจทย์การใช้งาน รวมไปถึงการออกแบบฟังก์ชั่นในห้องน้ำที่รองรับการใช้สอย อย่างพื้นที่วางของในห้องน้ำด้วย

ด้วยความที่บ้านหลังนี้เป็นบ้านมุม ทางโครงการจึงได้ออกแบบให้ดูเป็นตัวอย่าง ว่าสามารถทำเป็นมุมพักผ่อนเพิ่มเติมได้ด้วยนะ

ขึ้นไปดูชั้นอื่นๆของตัวบ้านกันบ้างดีกว่า และนี่คืออีกไฮไลท์ ทางโครงการได้นำลิฟต์ แบรนด์ Hitachi มาไว้ในบ้าน ซึ่งจะรองรับน้ำหนักได้ถึง 300 KG. และยังเป็นลิฟต์ที่ประหยัดค่าใช้จ่าย ทางโครงการรับประกันลิฟต์ให้ถึง 2 ปีด้วย ซึ่งลิฟต์นี้จะไปสิ้นสุดที่ชั้นดาดฟ้า ตอบโจทย์การใช้สอยได้ทุกช่วงวัย อากงอาม่า ก็สามารถขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้านได้อย่างสะดวกสบาย

ขึ้นมาที่ชั้นลอย จะเป็นพื้นที่โล่งที่ทางโครงการได้ออกแบบให้เป็นห้องทำงานอย่างเป็นสัดส่วน หรือจะปรับให้เป็นมุมพักผ่อนเพิ่มเติมอีกมุมนึงก็ได้ด้วยเช่นกัน

ข้างๆกันที่ชั้นลอย จะเป็นระเบียงกว้างที่ทางโครงการได้ติดตั้งระบบไว้รองรับการซักล้าง และยังสามารถตากผ้าที่บริเวณนี้ได้อย่างเป็นสัดส่วนด้วย

ห้องนอนชั้น 2 เป็นห้องนอนใหญ่แบบ Penthouse Master Bedroom ที่มีพื้นที่รองรับหลากหลายทั้ง Walk-in Closet ห้องน้ำขนาดใหญ่ และยังได้ช่องแสงธรรมชาติด้านหน้าของตัวบ้านด้วย

นอกจากจะวางเตียงคิงไซส์ได้แล้ว ยังมีพื้นที่ในจัดวางโซฟารองรับการพักผ่อนได้อีกด้วย

 

พื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่และเป็นสัดส่วน เชื่อมต่อระหว่างห้องน้ำและพื้นที่นอน โดยพื้นที่นี้สามารถ Built-in ตู้เสือผ้าขนาดใหญ่ได้แบบรอบด้านเลยทีเดียว

ภายในห้องน้ำของ Penthouse Master Bedroom จะเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่เหมือนกับแบบบ้าน DEMI 6 ทั้งการออกแบบและเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำ รวมไปถึงการเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องน้ำได้ด้วย

เป็นระเบียงพร้อมพื้นที่สีเขียวที่ใช้งานได้จริง และทำให้บรรยากาศในบ้านมีความสดชื่นมากขึ้นด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะมีทั้งหมด 2 ห้องนอน โดยได้ออกแบบให้เป็นห้องนอนหลานชายและหลานสาว อย่างห้องนี้จะออกแบบให้เป็นห้องนอนหลานชายที่ตกแต่งให้ดูสุขุม เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ รองรับการวางเตียงคิงไซส์ได้ และยังมีพื้นที่สำหรับจัดวางโต๊ะ ตู้ ได้อย่างเป็นสัดส่วน

และยังมีห้องน้ำในตัวด้วยเช่นกัน โดยจะแบ่งพื้นที่ใช้สอยแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้อย่างเป็นสัดส่วน

สำหรับอีก 1 ห้องนอนที่ออกแบบให้เป็นห้องนอนหลานสาว มีขนาดใหญ่ไม่แพ้กัน สามารถวางเตียงคิงไซส์ได้ และจัดพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนสำหรับการแต่งตัว แต่งหน้า

มีห้องน้ำในตัวพร้อมการแบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน

สำหรับชั้นบนสุดที่เป็น Panoramic Rooftop เป็นพื้นที่ไฮไลท์ที่สามารถทำเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ ไม่ว่าจะทำเป็นห้องนอนอากงอาม่า หรือแม้แต่จะทำเป็นมุมรองรับการปาร์ตี้ รับลมชมวิว ซึ่งชั้นนี้จะมีลิฟต์ที่ขึ้นมาถึงและมีการวางระบบไว้ให้เรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงยังมีห้องน้ำไว้ให้เรียบร้อยแล้วด้วย

ซึ่งในภาพตัวอย่างทางโครงการได้ออกแบบให้เป็นห้องนอนอากงอาม่า เพื่อให้เห็นถึงการใช้พื้นที่ใช้สอยได้อย่างเต็มที่

พื้นที่ระเบียงกว้างที่สามารถออกมารับลมชมวิวได้ เป็นการใช้สอยพื้นที่ดาดฟ้าที่ต้องบอกว่าคุ้มค่าและมีประโยชน์มากจริงๆ


ส่วนกลางโครงการ DEMI Sathu 49

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ DEMI Sathu 49 นั้นจะอยู่ที่บริเวณด้านหน้าโครงการ โดยจะมีทั้งคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนส ห้องโยคะ Sansiri Backyard พื้นที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และระบบการรักษาความปลอดภัยแบบ LIV-24 ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.

สระว่ายน้ำระบบเกลือที่ไม่ใช่ไว้ออกกำลังกาย แต่ยังออกแบบให้สวยงาม มีความโค้งมนรับกับดีไซน์บ้านในโครงการด้วย

บรรยากาศด้านหน้าของสระว่ายน้ำจะเป็นพื้นที่สีเขียวของโครงการ ที่เป็นมุมพักผ่อนได้อีกด้วย

พื้นที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีเขียวนานาชนิด

พื้นที่ Sansiri Backyard แปลงผักสวนครัวที่นอกจากจะทำให้สวยงาม ยังสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้จริงด้วย

เข้ามาด้านในคลับเฮ้าส์ พื้นที่ชั้นล่างจะเป็น Co-Living ที่สามารถนัดพบปะพูดคุย นั่งทำงานได้ เป็นโซนที่ตกแต่งไว้ได้อย่างสวยงามและโมเดิร์นมากๆ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นห้องฟิตเนส ที่ได้เลือกสรรอุปกรณ์ออกกำลังกายมาใส่ไว้ให้แบบคิดไว้แล้วว่า คนเมืองได้ใช้งานจริงๆแน่นอน

ห้องโยคะ สามารถปรับเป็นห้อง Multi Purpose ได้ เพื่อรองรับกิจกรรมของลูกๆหลานๆ เพื่อเป็นคลาสเรียนเต้น คลาสกิจกรรมต่างๆในวันหยุดได้

สรุปโครงการ DEMI Sathu 49

โครงการ DEMI Sathu 49 ถือว่าเป็นแบบบ้านที่ออกแบบมาได้ตอบโจทย์กลุ่มคน 2 รูปแบบ คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มครอบครัวเริ่มต้นที่มีแพลนกำลังแต่งงาน หรือมีลูก 1-2 คน ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่มากกว่าคอนโดในเมือง แต่ยังได้ฟังก์ชั่นใช้สอยได้แบบคอนโดในเมืองมาไว้ในบ้าน ในรูปแบบของ Duplex Master Bedroom ที่มีเพดานสูงโปร่ง รวมไปถึงกลุ่มครอบครัวใหญ่ที่ต้องการขยับขยายจากถิ่นที่อยู่เดิมในย่านนั้น เป็นฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไปยังผู้สูงอายุ และการแบ่งพื้นที่ให้ลงตัวและมีความเป็นส่วนตัวต่อกันและกันด้วย

สำหรับทำเลสาธุประดิษฐ์ เป็นย่านที่หาที่ดินได้ยากมากๆแล้ว และยังเป็นย่านที่มีโครงการใหม่เกิดขึ้นไม่มาก สำหรับคนที่กำลังขยับขยายมองหาบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในทำเลที่ใช่ มีความส่วนตัว และสะดวกสบายในเรื่องการเดินทาง และทำเลโดยรอบมีการพัฒนาการเดินทางทั้งอุโมงค์ไปพระราม 9 ออกจากโครงการไป 5 นาทีถึงทางด่วน ซึ่งจะยิ่งทำให้ทำเลนี้น่าอยู่อาศัยและมีราคาที่ดินพุ่งขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน ตอนนี้แบบบ้าน DEMI 6 ราคาเริ่มต้น 18.9 ล้านบาท และแบบบ้าน DEMI 8 ราคาเริ่มต้น 28.9 ล้านบาท และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และความปลอดภัยได้มาตรฐานแบบนี้ ต้องรีบเข้ามาดูบ้านจริงได้ที่โครงการแล้วนะ

เปิดให้ชมบ้านตัวอย่างแล้ว ราคาเริ่ม 18.9 ล้าน (สอบถามทางโครงการอีกครั้ง)

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ https://bit.ly/3tPstgU

📱 สอบถามเพิ่มเติมโทร 1685

📢  แผนที่ : https://g.page/demi-sathu49?share

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

 

Leave a Reply

Discover more from Enjoy Residence

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading